หน้าหลัก ตรัสรู้อริยสัจสี่ ไตรสิกขา ปัญญา : ทำให้รู้แจ้งตามหลักวิชา
Search:

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทุกขอริยสัจจ์ คือ ขันธ์ ๕ ที่คนเข้าไปยึดถือ เป็นทุกข์ ...
สมุทัยอริยสัจจ์ คือ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ... นิโรธอริยสัจจ์ คือ ความดับทุกข์ ...
มรรคอริยสัจจ์ คือ ทางไปสู่ความดับทุกข์ ได้แก่ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ”

หนังสือ พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์
รองศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม

ดูกรสุภัททะ ! อริยมรรคประกอบด้วยองค์แปด เป็นทางประเสริฐ สามารถให้บุคคล ผู้เดินไปตามทางนี้ ถึงซึ่งความสุขสงบเย็นเต็มที่เป็นทางเดินไปสูอมตะ ดูกรสุภัททะ ! ถ้าภิกษุหรือใครก็ตามจะพึงอยู่โดยชอบ ปฏิบัติดำเนินตามมรรคอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดนี้อยู่ โลกก็จะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์

หนังสือ พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน
อาจารย์วศิน อินทสระ

หน้าแรก : หมวดตรัสรู้อริยสัจสี่

อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่ ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, และมรรค

ชาร์ตแสดงความสัมพันธ์แห่งอริยสัจ ๔ โดยจับคู่เป็น ๒ คู่

สมุทัยอริยสัจ เป็นเหตุ โดยมี ทุกข์อริยสัจ เป็นผล คู่หนึ่ง
มรรคอริยสัจ เป็นเหตุ โดยมี นิโรธอริยสัจ เป็นผล คู่หนึ่ง


 
ความทุกข์
 
การดับความทุกข์และสร้างสุขที่แท้จริง
 
 
 
ความทุกข์




เหตุให้เกิดทุกข์ : ตัณหา
 
ความดับทุกข์
ดับตัณหาและมีสุขที่แท้จริง
 
หลักปฏิบัติที่ทำให้พ้นทุกข์
และสร้างสุขที่แท้จริง
มัชฌิมาปฏิปทา
(ทางสายกลาง)

ชีวิตคืออะไร : ขันธ์ ๕
รูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ
มีตัว มีตน
 
ชีวิตเป็นอย่างไร:ไตรลักษณ์
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน
 
ความทุกข์ :
     - ทุกข์กาย
     - ทุกข์ใจ
 
ประเภทและอาการแห่งทุกข์ ตามหลักทั่วไป
ทุกข์สรุปในปัญจุปาทานขันธ์
หลักเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับทุกข์

 
ชีวิตเป็นไปอย่างไร
กระบวนการเกิด "ทุกข์"
ปฏิจจสมุปบาทสมุทยวาร
 
 ตัณหา :
     - กามตัณหา
       (ความอยากมี)
     - ภวตัณหา
       (ความอยากเป็น)
     - วิภวตัณหา
       (ความอยากไม่ให้มี
       อยากไม่ให้เป็น)
 
 อุปาทาน :
     - กามุปาทาน
       (ยึดมั่นในความอยาก)
     - ทิฏฐุปาทาน
       (ยึดมั่นในทฤษฏี)
     - สีลัพพตุปาทาน
       (ยึดมั่นศีลและพรต)
     - อัตตวาทุปาทาน
       (ยึดมั่นตนเป็นหลัก)
อุปาทานขันธ์ ๕
 
ลักษณะแห่งตัณหา
ที่เกิดและการเกิดแห่งตัณหา
อาการที่ตัณหาทำให้เกิดทุกข์
ทิฏฐิเกี่ยวกับตัณหา
กิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย



 
ชีวิตควรให้เป็นอย่างไร
กระบวนการดับ "ทุกข์"
ปฏิจจสมุปบาทนิโรธวาร
 
ดับตัณหา
 
ดับอุปาทาน
 
 ดับทุกข์ :
     - ดับทุกข์ทางกาย
     - ดับทุกข์ทางใจ
 
ความสุขที่เป็นวิสัยของโลก
 
ความสุขที่เหนือกว่า
ระดับชาวโลก
 
 

 

 

 

 

 

 


 

 
ความดับแห่งตัณหา
ธรรมเป็นที่ดับแห่งตัณหา
ผู้ดับตัณหา
อาการดับแห่งตัณหา

 
   
     
(การละชั่ว)
 
 
สมถะภาวนา
ดับทุกข์และดับกิเลสชั่วคราว

 
 
 
วิปัสสนาภาวนา
ดับทุกข์และดับกิเลสถาวร

 
ไม่มีตัวตน (กาย/ใจ)
 
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไร
เป็นของตนอย่างแท้จริง
----------------------
สุญญตา : ว่าง
     
ไม่อยากเอา ไม่อยากเป็น
   
     
"ไม่ยึดมั่นถือมั่น"
(ไม่มีตัวกู ของกู)
สุญญตา : จิตว่าง
-----------------------
จิตหลุดพ้นจากอุปาทาน
   

วิปัสสนา (ทำให้รู้แจ้ง)
ตามหลักวิชา
ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ (อริยสัจ) คือ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ (มรรค) เป็นอย่างไรเล่า?
ภิกษุ ท.! หนทางอันประเสริฐ ประกอบด้วยองค์แปดประการนั่นเอง ได้แก่ สิ่งเหล่านี้คือ :
             ความเห็นชอบ ความดำริชอบ การพูดจาชอบ การทำการงานชอบ การดำรงชีพชอบ ความพยายามชอบ ความระลึกชอบ
             ความตั้งใจมั่นชอบ อันนี้เราเรียกว่า ความจริงอันประเสริฐ (อริยสัจ) คือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์

อริยสัจจากพระโอษฐ์ : พุทธทาสภิกขุ

ทำให้รู้แจ้งตามหลักวิชา
๑) สีลวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งศีล (ศีล)
๒) จิตตวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งจิต (สมาธิ)
๓) ทิฏฐิวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งความเห็น (วิปัสสนาลำดับที่ ๑)
๔) กังขาวิตรณวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งรู้เป็นเครื่องข้ามความสงสัย (วิปัสสนาลำดับที่ ๒)
๕) มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งรู้ความเห็นที่ว่า เป็นทางหรือไม่ใช่ทาง (วิปัสสนาลำดับที่ ๓)
๖) ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งรู้ความเห็นในทางปฏิบัติ มี ๙ ลำดับ รวมเรียกว่า วิปัสสนาญาณ ๙ (วิปัสสนาลำดับที่ ๔)
    ๖.๑ อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ : เห็นความเกิดและดับสลาย
    ๖.๒ ภังคานุปัสสนาญาณ : เห็นความดับสลายโดยส่วนเดียว
    ๖.๓ ภยตุปัฏฐานญาณ : เห็นภาวะทั้งหลายเต็มไปด้วยความน่ากลัว
    ๖.๔ อาทีนวานุปัสสนาญาณ : เห็นความเต็มไปด้วยโทษทุกข์ภัย
    ๖.๕ นิพพิทานุปัสสนาญาณ : เห็นความเบื่อหน่ายในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
    ๖.๖ มุญจิตกัมมยตาญาณ : ความรู้ซึ่งทำให้เกิดความใคร่อย่างแรงกล้าที่จะพ้นทุกข์
    ๖.๗ ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ : ความรู้หาทางพ้นทุกข์นั้น ๆ
    ๖.๘ สังขารุเปกขาญาณ : ความรู้เป็นเครื่องปล่อยวางเฉย
    ๖.๙ สัจจานุโลมิกญาณ : ความรู้ควรแก่การรู้อริยสัจจ์

๗) ญาณทัสสนวิสุทธิ : ความหมดจดแห่งรู้ความเห็นที่ถูกต้อง (วิปัสสนาลำดับที่ ๕)

ก. อริยมรรค
ข. อริยผล

อริยสัจจากพระโอษฐ์ : พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ)

 

พุทธธรรม : พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

      หลักการปฏิบัติที่จัดเป็นระบบ

ธรรมะบรรยาย
      คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม


ฟังธรรมะบรรยาย
(มากกว่า ๔,๐๐๐ ไฟล์)

อ่านพระไตรปิฎก
(คัมภีร์สำคัญทางพุทธศาสนา)
อ่านหนังสือธรรมะออนไลน์
(โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง)
วิธีปฏิบัติธรรม
(ธรรมะภาคปฏิบัติ)
 

จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา
     จุดหมายสูงสุด ของพระพุทธศาสนา พึงบรรลุได้ด้วยความสุขหรือด้วยข้อปฏิบัติที่มีความสุข มิใช่บรรลุด้วยความทุกข์ หรือด้วยข้อปฏิบัติที่เป็นทุกข์
      ผู้ปฏิบัติจะต้องไม่ติดใจหลงไหลในความสุขที่เกิดขึ้นแก่ตน ไม่ปล่อยให้ความสุขที่เกิดขึ้นนั้น ครอบงำ
        จิตใจของตน ยังมีจิตใจเป็นอิสระ สามารถก้าวหน้าไปในธรรมเบื้องสูง ต่อๆ ไป จนบรรลุความเป็นอิสระ
        หลุดพ้นโดยบริบูรณ์
      ซึ่งเมื่อบรรลุจุดหมายนั้นแล้ว ก็สามารถเสวยความสุขที่เคยเสวยมาแล้ว โดยที่ความสุขนั้น ไม่มีโอกาส
        ครอบงำจิตใจ ทำให้ติดพันหลงไหลได้เลย
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

หลักแห่งพระพุทธศาสนาโดยสรุป
     พุทธศาสนาคือวิชาและระเบียบปฏิบัติ เพื่อให้รู้สิ่งทั้งปวงถูกต้องตามที่เป็นจริงว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งทั้งปวง มีสภาพตามที่เป็นจริง คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวหรือของตัว ; แต่สัตว์ทั้งหลายยังหลงรัก หลงยึดติดสิ่งทั้งปวง เพราะอำนาจของการยึดมั่นที่ผิด ในพุทธศาสนามีวิธี ปฏิบัติเรียกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ ตัดการติดการยึดมั่นนั้นเสีย อุปาทาน การยึดมั่นนั้นมีสิ่งที่ลงเกาะหรือจับยึด คือ ขันธ์ทั้งห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
      เมื่อรู้จักขันธ์ทั้งห้า ตามที่เป็นจริง ก็จะสามารถเข้าใจสิ่งทั้งปวงจนถึงกับเบื่อหน่ายคลายความอยาก ไม่ยึดอะไร ติดอะไร และเราควรจะมีชีวิตอยู่อย่างที่เรียกว่า "เป็นอยู่ชอบ" คือให้ วันคืนเต็มไปด้วยความปีติ ปราโมทย์ อันเกิดมาจากการกระทำที่ดีที่งามที่ถูกต้องอยู่เป็นประจำ แล้วระงับความฟุ้งซ่าน เกิดสมาธิ เกิดความเห็นแจ้งได้เรื่อยๆ ไป จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่าย ความคลายออก ความหลุดพ้น และนิพพานได้ตามความเหมาะสมของสิ่งแวดล้อม
      ถ้าเราจะรีบเร่งทำให้ได้ผลเร็วขึ้น ก็มีแนวปฏิบัติที่เรียกว่า วิปัสสนาธุระ เริ่มตั้งแต่มี ความประพฤติบริสุทธิ์ มีใจบริสุทธิ์ มีความเห็นบริสุทธิ์ เรื่อยขึ้นไปจนถึงมีปัญญา คือความเห็นแจ้งบริสุทธิ์ ในที่สุดก็จะตัดกิเลสที่ผูกมัดคนให้ติดอยู่กับวิสัยโลกออกเสียได้ เรียกว่า การบรรลุมรรคผล
ท่านพุทธทาสภิกขุ : คู่มือมนุษย์



สงวนลิขสิทธิ์โดย ธรรมะพีเดีย.คอม
เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนา โดยไม่มุ่งหวังผลทางพาณิชย์
อนุญาตให้นำไปเผยแผ่เพื่อสืบต่อพุทธศาสนาได้ตามกุศลเจตนา

www.thammapedia.com
( ศูนย์เผยแผ่พระพุทธธรรม )
Copyright © 2008 ALL RIGHTS RESERVED
 
 
หน้าหลัก